การสำรวจความชุกและปัจจัยเสี่ยงของภาวะขาดวิตามินเอในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี ของจังหวัดชายแดนใต้ พ.ศ.2562

บทคัดย่อ

ภาวะขาดวิตามินเอเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งของการเสียชีวิตในเด็กที่ติดเชื้อหัด ปี พ.ศ. 2561-2562 พื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทยพ[ผู้ป่วยโรคหัดเสียชีวิต 34 ราย อัตราป่วยตายร้อยละ 0.56 เป็นเด็กอายุต่ำ กว่า 5 ปีร้อยละ 91.18 วัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกภาวะขาดวิตามินเอของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีในพื้นที่ดังกล่าวสำหรับการวางแผนให้วิตามินเอเสริม ดำเนินการศึกษาโดยใช้รูปแบบภาคตัดขวาง พื้นที่ศึกษา ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา สุ่มเลือก 7 ใน 15 อำเภอที่พบการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคหัด และสุ่มเลือก 12 ตำบลเป็นพื้นที่ตัวอย่าง สุ่มเลือกประชากรเด็กอายุ 6-59 เดือนตามสัดส่วนกลุ่มอายุรายตำบลรวม 218 ราย ทุกรายได้รับการตรวจตา ประเมินภาวะโภชนาการ เก็บข้อมูลการเลี้ยงดู ชนิดอาหารที่รับประทาน เก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจระดับวิตามินเอ นิยามภาวะขาดวิตามินเอ ได้แก่ พบระดับวิตามินเอในเลือด <0.70 μmol/L ผลการศึกษาพบเด็กที่มีภาวะขาดวิตามินเอ 64 ราย (ร้อยละ 29.36) ไม่พบผู้ที่มีอาการผิดปกติทางตา ค่าความชุกภาวะขาดวิตามินเอสูงสุด ได้แก่ ปัตตานี ร้อยละ 34.09 กลุ่มอายุสูงสุด ได้แก่ 49-59 เดือน ความชุกร้อยละ 36.11 ค่าความชุกในเด็กที่มีและไม่มีภาวะทุพโภชนาการเท่ากับร้อยละ 31.67 และ 28.48 ตามลำดับ พบสัดส่วนของกลุ่มตัวอย่างที่รับประทานเนื้อสัตว์ ผักสีเขียวและผลไม้สีเหลืองเป็นประจำ น้อยกว่าร้อยละ 50.00 สรุปผลการศึกษาความชุกภาวะขาดวิตามินเอของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีในพื้นที่พบผู้ป่วยโรคหัดเสียชีวิตทั้ง 4 จังหวัดมีขนาดปัญหาในระดับรุนแรง (ความชุกมากกว่าร้อยละ 20.00) สาเหตุหลักจากการกินอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ