การส่งเสริมการแทนยาฉีดด้วยยากิน สำหรับผู้ป่วยที่นอนพักรักษาในโรงพยาบาล

ผู้แต่ง

  • รุ่งทิวา หมื่นปา โรงพยาบาลลำปาง
  • จุฬาภรณ์ ลิมวัฒนานนท์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • สุพล ลิมวัฒนานนท์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
  • พรรณพิศ สุวรรณกูล คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • วิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ

คำสำคัญ:

เภสัชกร, ผลกระทบ, การส่งเสริม, การแทนยาฉีดด้วยยากิน, ผู้ป่วยใน

บทคัดย่อ

การศึกษาผลการส่งเสริมระบบการแทนยาฉีดด้วยยากินแบบผสมผสานโดยใช้นโยบายของโรงพยาบาล การจัดประชุมวิชาการและการให้ข้อมูลแก่แพทย์เป็นรายกลุ่ม และสำรวจความคิดเห็นของแพทย์ต่อระบบดังกล่าว โดยศึกษาผู้ป่วยในของโรงพยาบาลลำปาง ซึ่งได้รับยาฉีดเป้าหมายเพื่อการรักษามากกว่า ๒๔ ชั่วโมง เก็บข้อมูลใน ๓ ช่วงเวลา ระหว่างตุลาคม ๒๕๕๖ ถึงพฤศจิกายน ๒๕๔๗ ช่วงละ ๑๕ วัน ก่อนดำเนินการและหลังดําเนินการ ๒ เดือน และ ๖ เดือน เพื่อหาผู้ป่วยและรายการยาฉีดที่ควรเปลี่ยนเป็นยากินตามแนวทางที่กำหนด คำนวณอุบัติการณ์ของโอกาสแทนยา จำนวนวันฉีดยาเกิน จำนวนวันฉีดยารวม และมูลค่าที่สูญเสีย อาจเกิดจากการฉีดยาเกิน วิเคราะห์ผลลัพธ์ของการดำเนินการแบบตัวแปรพหุเมื่อควบคุมตัวแปรที่สำคัญที่เกี่ยวข้องโดยใช้ generalized linear model

จากการทบทวนประวัติของผู้ป่วยที่ได้รับยาฉีดเป้าหมาย ๖๒๙ คน ๖๔๗ คน และ ๕๙๓ คน มีการสั่งใช้ยา ๙๔๐ ครั้ง ๑,๐๐๗ ครั้ง และ ๙๑๗ ครั้ง พบอุบัติการณ์ของการสั่งยาที่มีโอกาสแทนยา คิดเป็นร้อยละ ๒๕.๗, ๑๙.๑ และ ๒๔.๒ ในช่วงที่ ๑, ๒ และ ๓ ตามลำดับ ผลลัพธ์หลังการส่งเสริมการแทนยา พบอุบัติการณ์ของการสั่งยาที่มีโอกาสแทนยาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในระยะสั้นที่ ๒ เดือนหลังมีการส่งเสริมการแทนยา (p<๐.๐๕) แต่ผลลัพธ์อื่นซึ่งได้แก่ จำนวนวันฉีดยาเกิน จำนวนวันฉีดยารวม และมูลค่าการสูญเสีย ไม่พบการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติทั้งที่ ๒ เดือนและ ๖ เดือน และที่ ๖ เดือนพบว่าผลลัพธ์ทุกตัวมี ค่าใกล้เคียงกับก่อนดำเนินการส่งเสริมการแทนยา จากการสอบถามความคิดเห็นของแพทย์ พบว่าแพทย์มากกว่าร้อยละ ๙๐ เห็นด้วยกับการมีระบบการแทนยาฉีดด้วยยากิน และร้อยละ ๘๒.๗ เห็นว่าวิธีการส่งเสริมการแทนยาที่ได้ผลมากที่สุดคือการทำแนวทางในการปฏิบัติ (clinical practice guideline) เพียงร้อยละ ๒๑.๒ ที่เห็นว่าการกำหนดนโยบายเป็นวิธีที่ได้ผลดี แพทย์พอใจที่จะรับคำปรึกษาโดยการติดต่อด้วยตนเอง (ร้อยละ ๔๔.๒) มากกว่าการเขียนใบปรึกษา (ร้อยละ ๒๘.๙) ดังนั้น การส่งเสริมเชิงนโยบายและการให้ข้อมูลเป็นรายกลุ่ม อาจไม่ได้ผลลัพธ์ตามเป้าหมาย จึงควรนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับวิธีการส่งเสริมอื่นที่มีรายงานว่ามีประสิทธิภาพเช่นการจัดให้มีระบบเตือนแพทย์ผู้สั่งยาอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ใช้วิธีปรึกษาที่แพทย์พอใจ จะทำให้เกิดระบบการแทนยาที่มีประสิทธิภาพในโรงพยาบาล

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2019-05-25

วิธีการอ้างอิง

บทความที่มีผู้อ่านมากที่สุดจากผู้แต่งเรื่องนี้

1 2 3 > >>