หมอนรองข้อเข่าแบบดิสคอยด์: การศึกษาจากศพและจากการส่องกล้องข้อเข่า

ผู้แต่ง

  • ปริยุทธิ์ เจียรพัฒนาคม ศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กระทวงสาธารณสุข
  • ไกรฤกษ์ วัยวัฒนะ โรงพยาบาลน่าน สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
  • เจริญชัย พากเพียรไพโรจน์ ศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กระทวงสาธารณสุข
  • ประเสริฐ หลิ่วผลวนิช ศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ กระทวงสาธารณสุข

คำสำคัญ:

หมอนรองเข่าแบบดิสคอยด์, หมอนรองเข่าฉีก, ความผันแปรของหมอนรองเข่า

บทคัดย่อ

มีรายงานพบหมอนรองข้อเข่าแบบดิสคอยด์ได้บ่อยในชาวเอเชีย โดยฉพาะชาวญี่ปุ่น การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความชุกของหมอนรองข้อเข่าแบบดิสคอยด์จากการศึกษาในศพและจากการส่องกล้อง ข้อเข่า

ผู้ศึกษาได้ศึกษาความชุกของหมอนรองข้อเข่าแบบดิสคอยด์ โดยการชำแหละเข่าจากศพดองจำนวน 259เข่า และจากบันทึกผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดส่องกล้องเนื่องจากมีปัญหาในเข่าแบบต่าง ๆ จำนวน 719 เข่า ผู้ป่วย ได้รับการบันทึกอายุ เพศ อาการที่มาพบแพทย์ และสิ่งที่พบในขณะส่องกล้องตรวจเข่า

จากการศึกษาในศพ พบหมอนรองข้อรูปดิสคอยด์จำนวน 11 เข่า (4.3%) เป็นหมอนรองข้อเข่ารูป ดิสคอยด์แบบไม่สมบูรณ์ 10 เข่า แบบสมบูรณ์ 1 เข่า ไม่พบหมอนรองข้อเข่าแบบที่ต่อไปกับเอ็นริสเบอร์กเลย

เข่าซึ่งได้รับการส่องกล้องทั้งสิ้น 719 เข่า พบหมอนรองข้อเข่าใกล้ริมขาด 62 เข่า (8.6%) ในจำนวนนี้เป็นหมอนรองข้อรูปดิสคอยด์ 12 เข่า (1.7% ของเข่าที่ได้รับการส่องกล้อง) พบหมอนรองข้อเข่ารูปดิสคอยด์ชนิดไม่สมบูรณ์ 8 เข่า ชนิดสมบูรณ์ 4 เข่า

ความชุกของการพบหมอนรองข้อรูปดิสคอยด์ในศพไม่สูงกว่าที่เคยมีการศึกษาในคนผิวขาว ถึงแม้ว่าความชุกของการพบหมอนรองข้อรูปดิสคอยด์จากการศึกษาในศพจะไม่สูง แต่หมอนรองข้อเข่าที่แตกมีสัดส่วนของหมอนรองข้อเข่ารูปดิสคอยด์สูงถึง 1:5 จากสัดส่วนดังกล่าวนี้ ทำให้อนุมานได้ว่า หมอนรองข้อเข่ารูปดิสคอยด์น่าจะเป็นเหตุนำที่ทำให้หมอนรองข้อเข่าฉีกขาดได้ง่าย

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2018-12-20

วิธีการอ้างอิง

บทความที่มีผู้อ่านมากที่สุดจากผู้แต่งเรื่องนี้