ไข้เลือดออกในผู้ใหญ่ในโรงพยาบาลกำแพงเพชร พ.ศ. 2550

บทคัดย่อ

รายงานนี้เป็นการศึกษาย้อนหลังแบบ Hospital-based retrospective review โดยเก็บรวบรวม ข้อมูลจากประวัติ อาการทางคลินิกและผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการของผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไข้เดงกีและไข้เลือดออกเดงกีในผู้ใหญ่ที่รับไว้ในโรงพยาบาลกำแพงเพชร ระหว่างวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2550 - 31 ธันวาคม พ.ศ. 2550 เปรียบเทียบข้อมูลระหว่างกลุ่มผู้ป่วยไข้เดงกีและไข้เลือดออกโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ร้อยละและค่าเฉลี่ย พบว่ามีผู้ป่วยเดงกี 233 รายอัตราส่วนเพศชาย:เพศหญิง = 1.2:1 เป็นผู้ป่วยไข้เดงกี 54รายและผู้ป่วยไข้เลือดออกเดงกี 179 ราย โดยเป็นผู้ป่วยไข้เลือดออกเดงกี: DHF เกรด 1 99 ราย (55.3%),เกรด 2 55 ราย (30.79), เกรด 3 25 ราย (14%) ผู้ป่วย 17 รายมีความเสี่ยงสูงหรือมีอาการแสดงผิดปรกติจึงได้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงกว่า อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยไข้เดงกีและไข้เลือดเดงกีคือ 22.8 ปี (SD = 8.32) และ 23.32 ปี (SD = 10.48) ตามลำดับ ส่วนใหญ่ของผู้ป่วยทั้งไข้เดงกีและไข้เลือดออกเดงกีจะมาพบแพทย์ในวันที่ 3 หรือ 4 ของการเจ็บป่วย อาการที่พบมากในผู้ป่วยใข้เดงกี คืออาการไข้สูง ปวด ศีรษะ ไอ คลื่นไส้และอาเจียนส่วนอาการที่พบมากในผู้ป่วยไข้เลือดออกคือ ไข้สูง ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียนเบื่ออาหาร และปวดตามกล้ามเนื้อ การตรวจทูนิเกต์ (tourniquet test) จะให้ผลบวกร้อยละ 20 และร้อยละ 45.5 ในผู้ป่วยไข้เดงกีและไข้เลือดออกเดงกี ตามลำดับ การเปลี่ยนแปลงของ CBC ที่สำคัญคือ จำนวนเม็ดเลือดขาวจะลดลง ตามลำดับเมื่อ 2 และ 1 วัน ก่อนไข้ลงเมื่อเทียบกับแรกรับผู้ป่วยไว้ในโรงพยาบาล ค่าเกล็ดเลือดในผู้ป่วยไข้เลือดออกจะลดต่ำหรืออยู่ระหว่าง 100,000-150,000 cell/mm* ใน 2 และ 1 วัน ก่อนไข้ลงภาวะแทรกซ้อนที่พบได้คือเลือดออกผิดปรกติ ช็อก น้ำเกินในร่างกาย นอกจากนี้ยังพบภาวะ Hy-pokalemia, Sinus bradycardia ร่วมด้วย และในผู้ป่วยที่มีภาวะโรคธาลัสซีเมียมักจะไม่พบภาวะ Hemo-concentrationแต่จะพบว่ามีภาวะซีดที่ต้องให้เลือดส่วนในหญิงมีครรภ์ควรต้องระมัดระวังการติดเชื้อไวรัสเดงกีและให้การดูแลอย่างเหมาะสมและทันท่วงที