การพัฒนาสมรรถนะของผู้จัดการระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสําหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในจังหวัดสระบุรี
คำสำคัญ:
การพัฒนาสมรรถนะ, ผู้จัดการระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุข, ผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสมรรถนะของผู้จัดการระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสําหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในจังหวัดสระบุรี แบ่งออกเป็น 3 ระยะคือ ระยะที่ 1 สร้างรูปแบบการพัฒนาสมรรถนะฯ โดยศึกษาองค์ประกอบสมรรถนะผู้จัดการระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขในคณะกรรมการกองทุนระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุข สําหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงในจังหวัดสระบุรี ทั้งหมด 576 คน ระยะที่ 2 การใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะของผู้จัดการระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุข จํานวน 30 คน และระยะที่ 3 การประเมินผลการใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะฯในคณะกรรมการกองทุนฯและกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง 1 ตําบล จํานวน 25 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามตัวชี้วัดสมรรถนะของผู้จัดการระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขมี 3 องค์ประกอบหลัก 12 องค์ประกอบย่อย ได้แก่ (1) การปฏิบัติการดูแลผู้สูงอายุมี 3 องค์ประกอบย่อย (2) การบริหารจัดการมี 4 องค์ประกอบย่อย และ (3) การวางแผนเชิงกลยุทธ์ มี 5 องค์ประกอบย่อย แบบประเมินความรู้ แบบประเมินทัศนคติ แนวทางการสนทนากลุ่ม แบบสัมภาษณ์ แบบสังเกต และประเมินความพึงพอใจ ระยะเวลาการวิจัยระหว่างเดือนมกราคม 2560 ถึงมิถุนายน 2561 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ทดสอบสมมติฐานด้วยการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันลําดับสอง การทดสอบ t-test และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า (1) ตัวชี้วัดสมรรถนะของผู้จัดการระบบระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขทั้ง 3 องค์ประกอบหลัก และ 12 องค์ประกอบย่อยจํานวน 86 ตัวชี้วัด มีค่าเฉลี่ยความเหมาะสมอยู่ในระดับมากทุกตัวชี้วัด ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันตัวชี้วัดสมรรถนะของผู้จัดการระบบระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยมีค่า Chi-squareเท่ากับ 50.56 ค่าความมีนัยสําคัญ (p-value) เท่ากับ 0.062 ค่าดัชนีวัดระดับความกลมกลืน (goodness of fit in-dex) เท่ากับ 0.986 และค่าวัดระดับความกลมกลืนที่ปรับแก้ (adjusted goodness of fit index) เท่ากับ 0.961 (2)ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยความรู้และทัศนคติของผู้จัดการระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขก่อนและหลังการใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะฯมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 (3) การประเมินผลการใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะฯที่มีองค์ประกอบหลักคือ การปฏิบัติการดูแลผู้สูงอายุ การบริหารจัดการ และการวางแผนกลยุทธ์ สามารถทําให้จัดระบบบริการการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวที่มีภาวะพึ่งพิงครอบคลุมกลุ่มเป้ าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลและผลการประเมินความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (Mean=4.50)
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2018 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

