ผลของการใช้รูปแบบพยาบาลเจ้าของไข้ในการดูแล ผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม ต่อระดับความเจ็บปวด ความพึงพอใจของผู้ป่วยและ ความพึงพอใจในงานของพยาบาลวิชาชีพ
คำสำคัญ:
รูปแบบพยาบาลเจ้าของไข้, ผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม, ปวด, ความพึงพอใจบทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบคะแนนความเจ็บปวดและความพึงพอใจของผู้ป่วยหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมและประเมินความพึงพอใจของพยาบาลวิชาชีพ เป็นการศึกษากึ่งทดลองแบบ 2 กลุ่ม ทดสอบก่อน-หลัง คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง 2 กลุ่มได้แก่ (1) ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมที่ได้การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม จำนวน 30 คน แบ่งเป็นกลุ่มควบคุม 15 คน และกลุ่มทดลอง 15 คน และ (2)พยาบาลวิชาชีพหอผู้ป่วยศัลยกรรม 3 จำนวน 12คน ดำเนินการวิจัยระหว่าง 1 มิถุนายน 2557 ถึง 16 สิงหาคม 2557 เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองคือ รูปแบบการใช้ระบบพยาบาลเจ้าของไข้ในการพยาบาลผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบประเมินความพึงพอใจของพยาบาลวิชาชีพ แบบประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วยต่อบริการพยาบาล และแบบบันทึกคะแนนความเจ็บปวดหลังผ่าตัด วิเคราะห์ข้อมูลระดับความเจ็บปวดด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ Repeated measure ANOVA เปรียบเทียบความพึงพอใจในงานของพยาบาลวิชาชีพโดยใช้สถิติ Wilcoxon Signed Ranks Test และเปรียบเทียบความพึงพอใจของผู้ป่วยโดยใช้สถิติ Mann-Whitney U Test กำหนดระดับนัยสำคัญที่ 0.05ผลการศึกษาพบว่า ค่าเฉลี่ยคะแนนความเจ็บปวดของผู้ป่วยหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม กลุ่มควบคุม และ กลุ่มทดลองไม่แตกต่างกัน ความพึงพอใจของผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมในกลุ่มควบคุมซึ่งใช้รูปแบบบริการพยาบาลแบบทีมและกลุ่มทดลองหลังใช้รูปแบบพยาบาลเจ้าของไข้ โดยรวม ไม่แตกต่างกัน และความพึงพอใจของพยาบาลวิชาชีพหลังใช้รูปแบบพยาบาลเจ้าของไข้ในการดูแลผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมสูงกว่าก่อนใช้รูปแบบพยาบาลเจ้าของไข้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ทั้งโดยรวมและรายด้าน ข้อเสนอแนะ ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า พยาบาลวิชาชีพ มีความพึงพอใจในการปฏิบัติงานสูงขึ้น จึงควรสนับสนุนการใช้รูปแบบ สร้างแรงจูงใจ เพื่อให้เกิดการพัฒนาการมอบหมายงานที่ส่งเสริมความเป็นอิสระภายใต้กรอบวิชาชีพการพยาบาลมากขึ้น
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 Journal of Health Science- วารสารวิชาการสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

