ผลการใช้โปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพเด็กในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย (4D) ต่อระดับความรู้และการปฏิบัติของครู/ผู้ดูแลเด็ก เขตสุขภาพที่ 3
คำสำคัญ:
โปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพ, เด็กปฐมวัย, ผู้ดูแลเด็ก, สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองแบบกลุ่มเดียววัดผลก่อนและหลัง เพื่อศึกษาผลการใช้โปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพเด็กในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ต่อระดับความรู้และการปฏิบัติของครู/ผู้ดูแลเด็ก เขตสุขภาพที่ 3 ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (multistage sampling) จากครู/ผู้ดูแลเด็กในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่ยังไม่ผ่านการประเมินคุณภาพขั้นต้น จำนวน 338 คน ให้ได้กลุ่มตัวอย่าง 32 คน เครื่องมือที่ใช้คือ โปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพเด็กในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ที่พัฒนาขึ้นตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ ระยะเวลาดำเนินการ 12 สัปดาห์ ประกอบด้วยกิจกรรมการจัดอบรมให้ความรู้และฝึกทักษะการปฏิบัติการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย จำนวน 4 เรื่อง ดังนี้ (1) การส่งเสริมการเจริญเติบโตและโภชนาการ (2) การส่งเสริมพัฒนาการและการเล่น (3) การส่งเสริมสุขภาพช่องปาก และ (4) การจัดการด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและควบคุมโรคติดต่อในเด็ก, กิจกรรมกระตุ้น ติดตาม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซักถามปัญหา อุปสรรคการดำเนินงานส่งเสริมสุขภาพเด็กปฐมวัย ผ่านระบบประชุมออนไลน์ และกลุ่ม Line, และกิจกรรมสรุปและประเมินผลหลังการเข้าร่วมโปรแกรม เก็บ-รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม 3 ส่วน ได้แก่ ข้อมูลส่วนบุคคลของครู/ผู้เลี้ยงดูเด็กปฐมวัย, ความรู้การเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย, และการปฏิบัติการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัย ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากผู้ทรงคุณวุฒิ ค่าดัชนีความสอดคล้องกับเนื้อหาและวัตถุประสงค์การวิจัย (index of item objective congruence: IOC) อยู่ระหว่าง 0.70−1.00 ทุกข้อ และค่าความเชื่อมั่นโดยหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาเท่ากับ 0.97 และ 0.93 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ paired t-test ผลการศึกษาพบว่า คะแนนเฉลี่ยความรู้และคะแนนเฉลี่ยการปฏิบัติการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยของครู/ผู้ดูแลเด็ก หลังเข้าร่วมโปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพเด็กในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย สูงกว่าก่อนเข้าร่วมโปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพเด็กในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรส่งเสริมให้ครู/ผู้ดูแลเด็กนำโปรแกรมนี้ไปประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มความรู้และการปฏิบัติในการส่งเสริมสุขภาพเด็กในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยต่อไป
Downloads
เอกสารอ้างอิง
ฐิติมา ชูใหม่. การเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กปฐมวัย. Hua Hin Medical Journal [อินเทอร์เน็ต]. 2559 [สืบค้นเมื่อ 1 ก.ย. 2565];1(2):18–33. แหล่งข้อมููล : https://he01.tci-thaijo.org/index.php/hhsk/article/view/ 175062.
สำนักเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่่งชาติ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิคจำกัด; 2562.
สถาบันพัฒนาอนามัยเด็กแห่งชาติ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขุ . แนวทางการส่งเสริมคุุณภาพสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยด้านสุขภาพ (4D) ตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่่งชาติ. กรุงเทพมหานคร: องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ; 2564.
กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุุษย์. สรุปผลการดำเนินงานตามมาตรฐาน สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่่งชาติ ปีการศึกษา 2563 – 2564. กรุงเทพมหานคร: กรมกิจการเด็กและเยาวชน; 2564.
กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. ผลการดำเนินงานตามมาตรฐาน สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่่งชาติ [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 2 ก.พ. 2566]. แหล่่งข้อมููล: https://ecdis.dcy.go.th.
กระทรวงสาธารณสุข. ระบบข้อมูล Health Data Center (HDC) [อินเทอร์เน็ต].
[สืบค้นเมื่อ1ก.ย.2565]. แหล่งข้อมูล: https://hdcservice.moph.go.th/hdc/ main/index.php#.
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม. พฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทย
[อินเทอร์เน็ต]. 2562 [สืบค้นเมื่อ 3มิ.ย.2566]. แหล่งข้อมูล: http://www.etda.or.th/ th/NEWS/ETDA-Revealed-Thailand-Internet-User-Behavior-2019.aspx.
Rovinelli RJ, Hambleton RK. On the use of content specialists in the assessment of criterion-referenced test item validity. Tijdschrift Voor Onderwijs Research 1977; 2(2):49-60.
อุไรวรรณ ชัยชนะวิโรจน์, ชญาภา วันทุม. การทดสอบความตรงตามเนื้อหาของเครื่องมือวิจัย. วารสารการพยาบาลและสุขภาพ 2560;11(2):105-11.
Rosemary Caffarella. Planning programs for adult learners. A practical guide for educators trainers and staff developers. New York: Jossey-Bass; 2002.
ปิยะพร มงคลสิริ. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมองค์ความรู้และการจัดกิจกรรมของครูปฐมวัยเพื่อส่งเสริมทักษะสมองการคิดเชิงบริหารขั้นสูงสำหรับเด็กปฐมวัย ในจังหวัดศรีสะเกษ. วารสารวิจัยและพัฒนาสุขภาพศรีสะเกษ 2566;2(1):65-77.
รัตนาภรณ์ แบ่งทิศ, ศรินทร์ทิพย์ ชวพันธุ์, หยาดพิรุณ เสาร์เป็ง. ผลของโปรแกรมการเรียนรู้สำหรับผู้ใหญ่ต่อความรู้และทักษะของครูในการเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย. วารสารสภาการพยาบาล 2566;38(2):77-87.
Nutbeam D. Health literacy as a public health goal: a challenge for contemporary health education and communication strategies into the 21st century. Health Promotion International 2000:15(3);259-67.
สุวิมล คำสุวรรณ. การศึกษาประสิทธิผลของสื่อโปสเตอร์อินโฟกราฟิกแบบออนไลน์ของสำนักงานประกันสังคม. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น 2562;16(1):131-5.
โชติกา เศรษฐธัญการ. การศึกษาเปรียบเทียบความสามารถในการใช้ภาษาระหว่างเพศหญิงกับเพศชายที่สะท้อนให้เห็นภาพพจน์ทางเพศ. วารสารมังรายสาร 2562;7 (2) :17-31.
มาลี เอื้ออำนวย, อภิรัช อินทรางกูร ณ อยุธยา, กมลทิพย์ ทิพย์สังวาล, พรรณนิภา บุญกล้า, ศศิธร คำมี, กรชนก หน้าขาว. ผลของโปรแกรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยต่อความรู้และพฤติกรรมการส่งเสริมพัฒนาการเด็กของบิดามารดาและผู้ดูแล. วารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท 2564;3(1):48-63.
ประดับ ศรีหมื่นไวย, นฤมล เอื้อมณีกูล, ปัญญรัตน์ ลาภวงศ์วัฒนา, อาภาพร เผ่าวัฒนา. ผลของโปรแกรมการพัฒนาครูผู้ดูแลเด็กในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กก่อนวัยเรียนในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดนครราชสีมา. วารสารพยาบาลสาธารณสุข 2560;31 (2):127-43.
กรแก้ว ทัพมาลัย. การพัฒนารูปแบบการส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม ศูนย์อนามัยที่ 9 2561;12(29):5-19.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 กระทรวงสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

