การพัฒนารูปแบบการเตรียมความพร้อมสำหรับการป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุโดยบูรณาการความร่วมมือของภาคีเครือข่าย
คำสำคัญ:
การป้องกันการหกล้ม, การเตรียมความพร้อมป้องกันการหกล้ม, รูปแบบป้องกันการหกล้ม, การหกล้มในผู้สูงอายุบทคัดย่อ
ประชากรสูงอายุของประเทศไทยเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว และปัญหาทีพบได้บ่อยในผู้สูงอายุคือ การบาดเจ็บจากการหกล้มซึ่งส่งผลกระทบทำให้ร่างกายบาดเจ็บ เกิดความพิการและอาจเสียชีวิตตามมาได้ การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนารูปแบบและประเมินผลลัพธ์การใช้รูปแบบการเตรียมความพร้อมสำหรับการป้ องกันการหกล้มในผู้สูงอายุโดยบูรณาการความร่วมมือของภาคีเครือข่าย ใช้รูปแบบการวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ขั้นตอนการวิจัยประกอบ ด้วย การวางแผน การปฏิบัติการทดลองใช้ การสังเกต และการสะท้อนกลับ กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้สูงอายุชุมชนวัดไทร เขต 1 เทศบาลเมืองโพธาราม จังหวัดราชบุรี จำนวน 30 คน การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้การวิเคราะห์เอกสาร การ สัมภาษณ์ การประชุม และการใช้แบบประเมิน การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ส่วนข้อมูลเชิงปริมาณวิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา และสถิติอ้างอิง paired t- test ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบที่พัฒนาขึ้นเป็นการ ดำเนินงานร่วมกันของภาคีเครือข่ายของโรงพยาบาล (แพทย์ พยาบาล และกายภาพบำบัด) และเครือข่ายของท้องถิ่น (ผู้บริหาร เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประธานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ผู้ดูแลผู้สูงอายุ และตัวแทนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) ทีสอดคล้องตามบทบาทหน้าที่ ทั้งหมด 5 ขั้นตอน ได้แก่ (1) ศึกษาปัญหาและความต้องการของชุมชน (2) วางแผนการดำเนินงาน ทีเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจบริบทของชุมชน วิเคราะห์สถานการณ์ การหกล้ม สาเหตุ ผลกระทบที่เกิดขึ้น ร่วมวาดภาพกิจกรรมของชุมชนที่ต้องการในการลดปัญหาการหกล้ม รวมทั้ง ตกลงบทบาทหน้าที่ร่วมกัน (3) ดำเนินงานกิจกรรมการให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ การออกกำลังกาย การปรับปรุงสภาพแวดล้อมและที่อยู่อาศัยเพื่อป้ องกันการหกล้ม และการให้คำแนะนำปรึกษาเกี่ยวกับการ ใช้ยาและวัดสายตา และ (4) สังเกต ติดตามประเมินผลการดำเนินงาน และ (5) สรุปผลการดำเนินงานและสะท้อนกลับเพื่อปรับปรุงแก้ไขการทำงานร่วมกัน ผลการประเมินรูปแบบฯ พบว่า (1) ความรู้ในการป้องกันการหกล้ม และ การเตรียมความพร้อมในการป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.01) (2) ภาคีเครือข่ายและผู้สูงอายุมีความพึงพอใจต่อรูปแบบอยู่ในระดับมากที่สุด (Mean=4.6) (3) การหกล้มในผู้สูง อายุที่เข้าร่วมการทดลองลดลงจากร้อยละ 10.0 เป็นร้อยละ 0.0 และ (4) มีการนำรูปแบบไปขยายผลการใช้ในพื้นที่ ชุมชนวัดโชค เทศบาลเมืองโพธาราม จังหวัดราชบุรี ทำให้พื้นที่สามารถลดการหกล้มในผู้สูงอายุจากร้อยละ 24.4 เป็น ร้อยละ 12.2 ดังนั้นควรมีกิจกรรมป้ องกันการหกล้มในผู้สูงอายุที่เน้นเครือข่ายร่วมดำเนินการเพื่อให้เกิดความยั่งยืน
Downloads
เอกสารอ้างอิง
สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวัตกรรมแห่งชาติ. ผู้สูงอายุไทยต้องปรับตัวอย่างไร? เพื่อ พร้อมสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด (active aging) [อินเทอร์เน็ต]. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานสภานโยบาย การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ; 2564 [สืบค้นเมื่อ 19 พ.ค. 2565]. แหล่งข้อมูล: https://www.nxpo.or.th/th/8078/
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุ. สถานการณ์ผู้สูงอายุ ไทย พ.ศ. 2563 [อินเทอร์เน็ต]. [สืบค้นเมื่อ 19 พ.ค. 2565]. แหล่งข้อมูล: https://thaitgri.org/?p=39772
สำนักส่งเสริมและพิทักษ์ผู้สูงอายุ. คู่มือการปฏิบัติงานของ อผส. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ; 2557.
นิพา ศรีช้าง, ลวิตรา ก๋าวี. รายงานการพยากรณ์การพลัดตก หกล้ม ของผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) ในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2560 – 2564 [อินเทอร์เน็ต]. 2565 [สืบค้นเมื่อ 19 พ.ค. 2565]. แหล่งข้อมูล: http://www.thaincd.com/2016/mission/documents-detail.php?id=12095&tid=&gid=1-027
World Health Organization. WHO global report on falls prevention in older age. Geneva: World Health Organization; 2007.
Cameron ID, Gillespie LD, Robertson MC, Murray GR, Hill KD, Cumming RG, et al. Interventions for preventing falls in older people in care facilities and hospitals. Cochrane Database Syst Rev 2012; 12:CD005465.
ธีรภัทร อัตวินิจตระการ, ชวนนท์ อิ่มอาบ. ประสิทธิผลของ โปรแกรมการเตรียมความพร้อมและป้ องกันการหกล้มใน ผู้สูงอายุ. วารสารแพทย์เขต 4-5 2562;38(4):288-98.
Smith WE. The dynamic interplay between purpose, power and leadership in organizing complexity. Spanda Journal 2015;6(1):1-19.
โรงพยาบาลโพธาราม. สรุปผลการดำเนินงานประจำปี 2565. ราชบุรี: โรงพยาบาลโพธาราม; 2565.
ฉัตรทิพย์ เพ็ชรชลาลัย, สุวิทย์ อุดมพาณิชย์. ผลของโปรแกรม การออกกำลังกายด้วยยางยืดต่อสมรรถภาพทางกายในผู้- สูงอายุไทย. วารสารวิจัยสาธารณสุขศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น 2562;12(2):52-61.
ฉัตรสุดา ศรีบุรี. ผลของการฝึกเดินถอยหลังและการเดินไป ข้างหน้าต่อการทรงตัว ตัวแปรด้านระยะทางและเวลาของการ เดิน และความเสี่ยงของการหกล้มในผู้สูงอายุ [วิทยานิพนธ์ ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต]. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัย นเรศวร; 2563. 203 หน้า.
นงนุช เชาวน์ศิลป์ , พิมสุภาว์ จันทนะโสตถิ, จุฑารัตน์ ผู้พิทักษ์กุล. การพัฒนารูปแบบการป้ องกันการพลัดตกหกล้มในผู้- สูงอายุโดยใช้ชุมชนเป็ นฐานตามแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียง [รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์]. นครปฐม: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม; 2563. 74 หน้า.
รุ่งอรุณ สุทธิพงษ์. การป้องกันการหกล้มของผู้สูงอายุ ชุมชน บ้านขนุน ตำบลบ้านเลือก อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี โดยการมีส่วนร่วมของชุมชน [รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์]. ราชบุรี: มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง; 2564. 115 หน้า.
รัฎภัทร์ บุญมาทอง. การป้ องกันการหกล้มผู้สูงอายุที่อาศัย อยู่ในชุมชน: บทบาทของพยาบาลในการส่งเสริมสุขภาพและป้ องกัน. วารสารมหาวิทยาลัยคริสเตียน 2563;24(4):106- 15.
กาญจนา พิบูลย์. โครงการวิจัยเรื่อง ประสิทธิผลของโปรแกรมป้องกันการหกล้มแบบสหปัจจัยในผู้สูงอายุที่อาศัยในชุมชน. ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา; 2562.
Faul F, Erdfelder E, Lang AG, Buchner A. G*Power3: a flexible statistical power analysis program for the social, behavioral, and biomedical sciences. Behav Res Methods 2007;39(2):175-91.
Mahoney FJ, Barthel DW. Functional evaluation: The Barthel Index. Md Med J 1965;14(1):61-5.
สถาบันประสาท กรมการแพทย์. แนวทางเวชปฏิบัติภาวะ สมองเสื่อม. กรุงเทพมหานคร: ธนาเพรส; 2557.
Best JW. Research in education. 3rd ed. New Jersey: Prentice Hall Inc; 1977.
พวงรัตน์ ทวีรัตน์. วิธีการวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และ สังคมศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพมหานคร: สำนักทดสอบทางการศึกษาและจิตวิทยา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2543.
สถาบันเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ กรมการแพทย์. สถาบันเวชศาสตร์ ผู้สูงอายุ. กรุงเทพมหานคร: ซีจีทูล; 2551.
สำนักอนามัยสิ่งแวดล้อม กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. คู่มือการจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุ. กรุงเทพมหานคร: องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2558.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 กระทรวงสาธารณสุข

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

