การศึกษาองค์ความรู้การดูแลมารดาหลังคลอดของแพทย์แผนไทยประยุกต์ และแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลของรัฐ

ผู้แต่ง

  • Saovapak Poomirat สถานการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • นวลจันทร์ ใจอารีย์ สถานการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คำสำคัญ:

การดูแลมารดาหลังคลอด, การอยู่ไฟ, ผดุงครรภ์ไทย

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาองค์ความรู้ด้านการแพทย์แผนไทยในการดูแลรักษาสตรีหลังคลอด (ผดุงครรภ์แผนไทย) ของแพทย์แผนไทยประยุกต์ แพทย์แผนไทย ในโรงพยาบาลที่เป็นแหล่งฝึกประสบการณ์วิชาชีพด้านการแพทย์แผนไทยทั้งหมด 101 โรงพยาบาล วิธีการศึกษาใช้แบบสอบถามที่ได้รับการตรวจความตรงของเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญ ผลการศึกษาพบว่า การให้บริการอยู่ไฟในคลินิกคือนวดและประคบสมุนไพร 100% ,แนะนำอาหารสมุนไพรหลังคลอด 99.01%, อบสมุนไพร หรือ เข้ากระโจม หรือ ห้องอบไอน้ำ 97.03%, ทับหม้อเกลือ 97.03%, ยาสมุนไพรหลังคลอดและการประคบเต้านม 92.08% ตามลำดับ ประโยชน์ที่ได้จากการอยู่ไฟ คือ มารดามีน้ำนมเพิ่มขึ้น 99.01% ,ปวดกล้ามเนื้อลดลง 99.01% ,มารดาฟื้นตัวเร็วขึ้น 99.01% , น้ำคาวปลาปกติ90.10% , มดลูกเข้าอู่เป็นไปตามปกติ 87.13% นอกจากนี้มีการใช้ทั้งตำรับ ยาเดี่ยว อาหารและชาชงเพื่อฟื้นฟูสุขภาพและเพิ่มน้ำนม แบ่งเป็นยาสมุนไพรเพื่อฟื้นฟูสภาพหลังคลอด 4 ตำรับ เพิ่มน้ำนม 17 ตำรับ สูตรชาชง 7 ตำรับ โดยสมุนไพรที่มีค่าการใช้พืชสมุนไพรซ้ำสูง (UV) คือ ขิง น้ำนมราชสีห์ ฝาง ดีปลี หัวแห้วหมู โกฐทั้งห้า เทียนทั้งห้า นมนาง เถาสะค้าน อบเชยเทศ ไพล ว่านชักมดลูก และพบความสอดคล้องกับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์คือ ฤทธิ์ต้านการอักเสบ ได้แก่ ไพล ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ได้แก่ ฝาง ดีปลี และกลุ่มที่มีฤทธิ์เกี่ยวกับการเพิ่มน้ำนม ได้แก่ ฤทธิ์โฮรโมนเอสโตรเจนคือ ขิง ดอกบุญนาค ช้าพลู ฤทธิ์เพิ่มโฮรโมนโปรแลคติน คือ เช่น น้ำนมราชสีห์ รากนมนาง เทียนดำ หัวปลี หัวแห้วหมู สรุปได้ว่าสมุนไพรที่นำมาใช้นั้นมีความเหมาะสมและเห็นสมควรมีการศึกษาวิจัยต่อยอดทั้งในห้องปฏิบัติการณ์ งานวิจัยในมนุษย์ เพื่อนำมาพัฒนาเป็นยาเพื่อแก้ปัญหาในระบบแพทย์แผนปัจจุบันยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เช่น ยาเพิ่มน้ำนมในมารดาหลังคลอด หรือ ยาบำรุงร่างกายหลังคลอดต่อไป

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-03-19

วิธีการอ้างอิง