คุณภาพการรักษาผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ชนิด ST-Segment Elevation ในโรงพยาบาลเจ้าพระยา

ผู้แต่ง

  • วานิด ด้วงเดช โรงพยาบาลเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร
  • สมชาย ดุษฎีเวทกุล โรงพยาบาลเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร

บทคัดย่อ

การวิจัยทางคลินิกนี้ เพื่อประเมินคุณภาพการรักษาผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ชนิด ST-segment elevation โดยเก็บข้อมูลแบบย้อนหลัง (retrospective study) จากเวชระเบียนของผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ที่มารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลเจ้าพระยา ตั้งแต่ พ.ศ. 2544 ถึง พ.ศ. 2550 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่าง ของค่าเฉลี่ย (t-test)

พบว่าผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ชนิด ST-segment clevation ทั้งหมด 64 ราย ได้รับการรักษาเพื่อพยายามเปิดหลอดเลือดหัวใจ (reperfusion therapy) 57 ราย (89.1%) ไม่มีผู้เสียชีวิตในโรง-พยาบาล ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วยวิธีใช้ยาละลายลิ่มเลือด (fibrinolytic therapy) จำนวน 30 ราย (52.63 %) และด้วยวิธีขยายหลอดเลือดหัวใจ (percutancous coronary intervention: PCI) จำนวน 27ราย (47.37%) ค่ามัธยฐานของเวลา ตั้งแต่ผู้ป่วยเข้ามารักษาในโรงพยาบาล จนได้รับการรักษาด้วยวิธีใช้ยาละลายลิ่มเลืด (door-to-needle ime) เท่ากับ 60 นาที (mean = 78.53, SD = 63.24, median = 60, Q1=45, Q3= 87.75) และคามธยฐานของเวลาตงแต่ผู้ป่วยเข้ามารกษาในโรงพยาบาล จนไดรบการรกษา ด้วยวิธีขยายหลอดเลือดหัวใจ (door-to-balloon time) เท่ากับ 80 นาที (mean = 89.81, SD = 40.42, median = 80. 01=55. 03= 120) โดยระยะเวลาทีผปวยได้รบการรกษาเพ่อพยายามเปิดหลอดเลือดหวโจ ในช่วงก่อนและหลังมีศูนย์หัวใจแผนกผู้ป่วยนอก 24 ชั่วโมง แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ (p>0.05)

ระยะเวลาของการรกษาเพอพยายามเปดหลอดเลอดหวเจดวยวรขยายหลอดเลอดหวเจ (door-to-bal- Loon time) ใช้เวลาน้อยกว่า 90 นาที ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน แต่การรักษาด้วยวิธีใช้ยาละลายลิ่มเลือด (door- to-needle time) ใช้เวลานานกว่าที่ควรจะเป็น เนื่องจากความล่าช้าของกระบวนการตรวจวินิจฉัยและการรักษาเป็นการศึกษาย้อนหลัง และมีจำนวนกลุ่มตัวอย่างน้อยจึงต้องศึกษาโดยเก็บข้อมูลแบบไปข้างหน้า (prospective studv) ตอเบ

Downloads

Download data is not yet available.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2017-12-25

วิธีการอ้างอิง