ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรม การจัดการขยะอันตรายในครัวเรือนของประชาชน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
คำสำคัญ:
การจัดการขยะอันตราย, ความรู้, ทัศนคติ, พฤติกรรมบทคัดย่อ
การศึกษาวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรม การจัดการขยะอันตรายในครัวเรือน และศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความรู้และทัศนคติกับพฤติกรรมการจัดการ ขยะอันตรายในครัวเรือนของประชาชนตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เก็บข้อมูลโดยใช้ แบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง 220 คน (ผู้มีหน้าที่ในการจัดการขยะของครัวเรือน 1 คน/ครัวเรือน) โดยวิธีการ สุ่มอย่างง่าย เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม 4 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 คุณลักษณะส่วนบุคคล ส่วนที่ 2 ด้านความรู้ ส่วน ที 3 ด้านทัศนคติ และส่วนที ่ 4 ด้านพฤติกรรม วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ความถี ่ ่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความสัมพันธ์โดยใช้ สถิติ Fisher’s exact test ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ผล การศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความรู้อยู่ในระดับดี ร้อยละ 55.5 ทัศนคติอยู่ในระดับดี ร้อยละ 94.1 และพฤติกรรม ในระดับปานกลาง ร้อยละ 61.8 สำหรับความรู้และทัศนคติมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการจัดการขยะอันตรายใน ครัวเรือนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) การศึกษานี้ทำให้ทราบว่าประชาชนยังมีพฤติกรรมการจัดการขยะ บางประเภทที่ควรปรับปรุง ได้แก่ การทิ้งยาหรือเครื่องสำอางที่เสื่อมคุณภาพรวมถ่านไฟฉายที่ใช้แล้ว อุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ และภาชนะบรรจุสารกำจัดศัตรูพืช/สารเคมี/สารระเหย และการไม่นำขยะอันตรายไปทิ้งยังจุดรวบรวม ขยะอันตรายที่จัดเตรียมไว้ ดังนั้น เทศบาลตำบลธาตุควรมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดการขยะอันตราย และ ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้ ทัศนคติ และความเข้าใจเกี่ยวกับการนำส่งขยะอันตรายทีจุดรวบรวมขยะอันตรายของ ่ หมู่บ้าน
Downloads
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
วิธีการอ้างอิง
ฉบับ
บท
การอนุญาต

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.

