https://www.thaidj.org/index.php/CRPHC/issue/feed
วารสารสาธารณสุขมูลฐาน (ภาคกลาง)
2024-09-27T16:54:02+07:00
Piyachat Paranusorn
ssmphc2020@gmail.com
Open Journal Systems
<p>The Primary Health Care Journal (Central Edition) : Objectives are to support health science researches of health institutions at all levels and also to distribute their dedicated works and researches on public health.</p> <p><strong>Free access online</strong> : Free access online : Every 4 months or 3 issue per year (January - April, May - August, September - December)</p> <p>Language : Abstract in English, Text in English or Thai</p> <p><strong>Focus and Scope</strong> : The Primary Health Care Journal (Central Edition) welcomes all kinds of related articles health science. These included:</p> <p> 1. Academic Article<br /> 2. Research Article<br /> 3. Innovation Article</p> <p><strong>Peer Review Process</strong></p> <p> All submitted manuscripts must by reviewed by at least 2 expert reviewers via the double-blinded review system.</p> <p><strong>Publication Frequency</strong> : 3 issue per year</p> <p>No.1 (January - April) </p> <p>No.2 (May - August)</p> <p>No.3 (September - December)</p> <p><strong>Open Access Policy</strong> : This journal provides immediate open access to its content on the principle that making research freely available to the public supports a greater global exchange of knowledge.</p> <p><strong>Publisher</strong> : Central Regional Center for Primary Health Care Development</p> <p><strong>ค่าธรรมเนียมในการตีพิมพ์ (Article processing charges: APC)</strong> : ไม่มีค่าธรรมเนียมในการตีพิมพ์ ยกเว้นกรณียกเลิกหรือถอนบทความหลังจากที่ผู้ทรงคุณวุฒิประเมินบทความ (Peer Reviewers) พิจารณาแล้ว โดยผู้นิพนธ์จะต้องชำระค่าประเมินบทความ จำนวน 3,000 บาท</p>
https://www.thaidj.org/index.php/CRPHC/article/view/15807
การคัดเลือก อสม.ดีเด่นระดับภาค และการสนับสนุนสู่ อสม.ดีเด่นระดับชาติ
2024-09-27T14:46:19+07:00
กมลชนก สหุนาฬุ
chattharika2695@gmail.com
<p>การคัดเลือก อสม.ดีเด่นระดับภาค และการสนับสนุนสู่ อสม.ดีเด่นระดับชาติ</p>
2024-09-27T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2024
https://www.thaidj.org/index.php/CRPHC/article/view/15813
ขอแสดงความยินดีกับ อสม.ดีเด่นระดับภาคกลาง ประจำปี 2567
2024-09-27T16:43:12+07:00
ฉัตรฑริกา ผินจัตุรัส
chattharika2695@gmail.com
<p>ขอแสดงความยินดีกับ อสม.ดีเด่นระดับภาคกลาง ประจำปี 2567</p>
2024-09-27T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2024
https://www.thaidj.org/index.php/CRPHC/article/view/15804
บทบรรณาธิการ
2024-09-27T14:29:31+07:00
ฉัตรฑริกา ผินจัตุรัส
chattharika2695@gmail.com
<p>บทบรรณาธิการ</p>
2024-09-27T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2024
https://www.thaidj.org/index.php/CRPHC/article/view/15802
วารสารสาธารณสุขมูลฐานภาคกลาง
2024-09-27T14:22:10+07:00
ฉัตรฑริกา ผินจัตุรัส
chattharika2695@gmail.com
<p>หน้าปก</p>
2024-09-27T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2024
https://www.thaidj.org/index.php/CRPHC/article/view/15808
การศึกษาคุณภาพชีวิตของประชาชน : กรณีศึกษาอําเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี
2024-09-27T14:51:52+07:00
ศุภพัฒน์ ทศรฐ
chattharika2695@gmail.com
<p><span class="fontstyle0">การศึกษาคุณภาพชีวิตของประชาชน : กรณีศึกษาอําเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตอําเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี และเพื่อเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตอําเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี จําแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลประกอบด้วย เพศ อายุ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ต่อเดือน และจํานวนสมาชิกในครอบครัว โดยใช้กลุ่มตัวอย่าง จํานวน 397 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสอบถาม เรื่อง คุณภาพชีวิตของประชาชน ในเขตอําเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติที ค่าสถิติเอฟ และการวิเคราะห์เนื้อหา<br>ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 62.70 มีอายุระหว่าง 36 - 45 ปี ร้อยละ 25.40 อยู่ในสถานภาพสมรส ร้อยละ 66 จบการศึกษาระดับประถมศึกษา ร้อยละ 40.80 มีอาชีพ เกษตรกรรม ร้อยละ 44.10 มีรายได้ต่อเดือน 5,001 - 15,000 บาท ร้อยละ 47.10 และมีจํานวนสมาชิกในครอบครัวส่วนใหญ่ 3 - 4 คน ร้อยละ 57.90 คุณภาพชีวิตของกลุ่มตัวอย่างโดยภาพรวมอยู่ในระดับดี (Mean = 3.46, SD. = 0.48) เมื่อจําแนกเป็นรายด้านพบว่า คุณภาพชีวิตด้านจิตใจ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (Mean = 3.56, SD. = 0.66) รองลงมา คือ คุณภาพชีวิตด้านสิ่งแวดล้อม (Mean = 3.50, SD. = 0.50) ด้านความสัมพันธ์ทางสังคม (Mean = 3.43, SD. = 0.69) และคุณภาพชีวิตด้านร่างกาย (Mean = 3.35, SD. = 0.49) ตามลําดับ ผลการเปรียบเทียบคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตอําเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี พบว่า ประชาชนที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ต่อเดือนแตกต่างกัน มีคุณภาพชีวิตแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในขณะที่ประชาชนที่มี สถานภาพสมรส และจํานวนสมาชิกในครอบครัวแตกต่างกันมีคุณภาพชีวิตไม่แตกต่างกัน<br>ข้อเสนอแนะการวิจัย ภาครัฐควรให้ความสําคัญในส่งเสริมสุขภาพด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านความสัมพันธ์ทางสังคม และพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อให้คนในชุมชนเกิดคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถดําเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข</span> </p>
2024-09-27T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2024
https://www.thaidj.org/index.php/CRPHC/article/view/15809
แรงจูงใจของอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้านอําเภอวัดเพลงในการปฏิบัติงาน เคาะประตูบ้านต้านภัยโรคโควิด - 19 ในชุมชน
2024-09-27T15:24:13+07:00
โชติ เกิดบัณฑิต
chattharika2695@gmail.com
<p><span class="fontstyle0">การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงสํารวจ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจของอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน (อสม.) ที่ปฏิบัติงานในอําเภอวัดเพลง และเปรียบเทียบระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในอําเภอวัดเพลงจําแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ประชากรเป็น อสม.ในอําเภอวัดเพลง จํานวน 200 คน การกําหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรคํานวณของ Yamane จํานวน 194 คนสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถามที่มีค่าความเที่ยงเท่ากับ 0.78 วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติทีแบบอิสระ ค่าสถิติเอฟ และเปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่โดยใช้วิธีของเชฟเฟ่<br>ผลการวิจัย พบว่าระดับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของอาสาสมัครสาธารณสุขที่ปฏิบัติงานในอําเภอวัดเพลงโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง อาสาสมัครสาธารณสุขเพศชายและเพศหญิงมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 อาสาสมัครสาธารณสุขที่มีอายุต่างกัน มีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานไม่แตกต่างกัน อาสาสมัครสาธารณสุขที่มีระดับการศึกษาต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานไม่แตกต่างกัน อาสาสมัครสาธารณสุขที่มีสถานภาพสมรสต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานไม่แตกต่างกัน อาสาสมัครสาธารณสุขที่มีรายได้ต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานไม่แตกต่างกันและอาสาสมัครสาธารณสุขที่มีประสบการณ์การเป็นอาสาสมัครสาธารณสุขต่างกันมีแรงจูงใจในการปฏิบัติงานไม่แตกต่างกัน</span> </p>
2024-09-27T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2024
https://www.thaidj.org/index.php/CRPHC/article/view/15810
ปริมาณฟลูออไรด์ คลอไรด์ และไนเตรทในน้ำแข็งและน้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท ระหว่างปี พ.ศ. 2563-2565
2024-09-27T15:44:46+07:00
เสาวนีย์ เวียงนิล
chattharika2695@gmail.com
อมรรัตน์ พูลสวัสดิ์
chattharika2695@gmail.com
<p><span class="fontstyle0">การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสํารวจ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา วิเคราะห์ และเก็บข้อมูลตัวอย่างน้ำที่ส่งตรวจวิเคราะห์ปริมาณฟลูออไรด์ คลอไรด์ และไนเตรทในน้ำแข็งและน้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท ระหว่างปี พ.ศ. 2563-2565 ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 6 ชลบุรี โดยทางสํานักงานสาธารณสุขในเขตสุขภาพที่ 6 ร่วมกับภาคเอกชนจังหวัดชลบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง ได้ทําการส่งตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์คุณภาพที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 6 ชลบุรี ในระหว่างปี พ.ศ.2563-2565 รวม 1,101 ตัวอย่าง แบ่งเป็นน้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท<br></span><span class="fontstyle0">จํานวน 916 ตัวอย่าง และน้ำแข็ง จํานวน 185 ตัวอย่าง จากผลการวิเคราะห์ พบว่า ตัวอย่างน้ำบริโภคในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิทมีปริมาณฟลูออไรด์ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ จํานวน 8 ตัวอย่าง<br>คลอไรด์ 3 ตัวอย่าง และไนเตรท 12 ตัวอย่าง และในน้ำแข็ง มีปริมาณฟลูออไรด์ ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ จํานวน 2 ตัวอย่าง คลอไรด์ไม่พบตัวอย่างที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ และไเตรทไม่เป็นไปตามเกณฑ์ จํานวน 2 ตัวอย่าง จากผลการศึกษาจะเห็นได้ว่า มีตัวอย่างน้ำบางส่วนที่ยังคงมีปัญหาในด้านคุณภาพ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรสื่อสาร ให้ความรู้ คําแนะนําให้แก่ผู้ผลิตเพื่อปรับปรุงคุณภาพ และมีการเฝ้าระวังเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ ตามที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุขกําหนดต่อไป</span> </p>
2024-09-27T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2024
https://www.thaidj.org/index.php/CRPHC/article/view/15811
ความสุขในการทํางานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน อําเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
2024-09-27T16:05:06+07:00
ชุติไกร ตันติชัยวนิช
chattharika2695@gmail.com
<p><span class="fontstyle0">การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาระดับความสุขในการทํางาน และปัจจัยที่มีอิทธิพล และสามารถร่วมทํานายความสุขในการทํางานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน อําเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง กลุ่มตัวอย่างคืออาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน ที่ขึ้นทะเบียนและปฏิบัติงาน อย่างน้อย 6 เดือน ขึ้นไป ในเขตอําเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง จํานวน 230 คน ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช่เป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสถิติไคสแควร์ สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันและการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ<br>ผลการศึกษาพบว่า อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน ร้อยละ 56.1 มีความสุขในระดับปานกลาง รองลงมา คือระดับสูง ร้อยละ 36.9 และระดับน้อย ร้อยละ 7 ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความสุขในการทํางานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ ได้แก่ อายุ ความรู้สึกมีคุณค่าในตนเองสัมพันธภาพในครอบครัว แรงสนับสนุนทางสังคม และการรับรู้สภาวะแวดล้อมทางสังคม (p-value < 0.001) ส่วนปัจจัยที่มีอิทธิพลและสามารถคาดทํานายความสุขในการทํางานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน ได้แก่ แรงสนับสนุนทางสังคม และสัมพันธภาพในครอบครัว ซึ่งสามารถร่วมทํานายความสุขในการทํางานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้านได้ร้อยละ 35.7 และแรงสนับสนุนทางสังคม สามารถร่วมทํานายได้สูงสุด<br></span><span class="fontstyle0">จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะว่า ควรเสริมสร้างความสุขในการทํางานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน โดยเสริมสร้างความรู้สึกมีคุณค่าในตนเอง มีการสนับสนุนทางสังคมอย่างเพียงพอ ส่งเสริม สัมพันธภาพในครอบครัว รวมถึง การจัดการสภาวะแวดล้อมทางสังคม ให้สอดคล้องกับความต้องการและวิถีการดําเนินชีวิต เพื่อให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้านทํางานได้อย่างมีความสุข</span> </p>
2024-09-27T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2024
https://www.thaidj.org/index.php/CRPHC/article/view/15812
การประเมินคุณภาพห้องปฏิบัติการตรวจเอชไอวีซีโรโลยีในเขตภาคกลาง และภาคตะวันออก ปีงบประมาณ 2561-2565
2024-09-27T16:27:05+07:00
ธัญญลักษณ์ ไพโรจน์
chattharika2695@gmail.com
วันวิสาข์ เนตรเรืองแสง
chattharika2695@gmail.com
<p><span class="fontstyle0">การประเมินคุณภาพห้องปฏิบัติการโดยองค์กรภายนอกเป็นกระบวนการสําคัญของการประเมินความสามารถของห้องปฏิบัติการ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในผลการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง และเชื่อถือได้ การเข้าร่วมแผนทดสอบความชํานาญยังเป็นหนึ่งในข้อกําหนดในการรับรองมาตรฐาน ISO 15189 ด้วย ในการศึกษาครั้งนี้มี วัตถุประสงค์เพื่อประเมินคุณภาพของห้องปฏิบัติการในเขตภาคกลางและภาคตะวันออก ระหว่างปีงบประมาณ 2561-2565 ห้องปฏิบัติการที่เข้าร่วมเป็นห้องปฏิบัติการที่ทําการตรวจเอชไอวีซีโรโลยี จํานวน 143 - 194 แห่ง คุณภาพการตรวจประเมินจากความสอดคล้องกับค่ากําหนด การดําเนินงานประกอบด้วย การส่งตัวอย่างทดสอบ ให้สมาชิกจํานวน 3 ครั้ง/ปี การรวบรวมข้อมูลการตรวจ การประเมินผลความถูกต้องและ<br></span><span class="fontstyle0">แม่นยํา และการจัดทํารายงานผล ผลการศึกษาพบอัตราการตอบกลับของห้องปฏิบัติการที่เข้าร่วมแผนทดสอบความชํานาญ 91.70, 93.83, 94.31, 94.27 และ 92.72 ตามลําดับ <br></span><span class="fontstyle0">ผลความถูกต้องของผลการตรวจคิดเป็น ร้อยละ 95.17, 95.36, 97.45, 97.05 และ 89.87 ตามลําดับ สาเหตุของความผิดพลาดพบสูงที่สุด คือ การรายงานผลหรือสรุปผลผิด <br>การปนเปื้อน และการสลับตัวอย่าง ผลการตรวจของห้องปฏิบัติการมีความความแม่นยําในการตรวจตัวอย่างซ้ำคิดเป็นร้อยละ 98.79, 99.23, 99.45, 99.27 และ 99.24 ตามลําดับ ในส่วนของการสรุปผลการตรวจพบว่า สมาชิกมีการสรุปผลไม่เป็นไปตามแนวทางการตรวจวินิจฉัย รักษา และป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีประเทศไทย แต่มีแนวโน้มลดลงเมื่อได้รับคําแนะนําจากผู้ดําเนินแผนฯ จากข้อมูลในการศึกษาครั้งนี้มีประโยชน์ต่อสมาชิกในการเฝ้าระวัง ปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดที่อาจเกิดซ้ำ อีกทั้งยังมีประโยชน์ในการนําไปพัฒนาโปรแกรมการทดสอบความชํานาญให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น</span> </p>
2024-09-27T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2024
https://www.thaidj.org/index.php/CRPHC/article/view/15806
สารบัญ
2024-09-27T14:44:06+07:00
ฉัตรฑริกา ผินจัตุรัส
chattharika2695@gmail.com
<p>สารบัญ</p>
2024-09-27T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2024
https://www.thaidj.org/index.php/CRPHC/article/view/15803
คณะกรรมการกองบรรณาธิการวารสาร
2024-09-27T14:26:59+07:00
ฉัตรฑริกา ผินจัตุรัส
chattharika2695@gmail.com
<p>คณะกรรมการกองบรรณาธิการวารสาร</p>
2024-09-27T00:00:00+07:00
ลิขสิทธิ์ (c) 2024